Pages

Thursday, July 9, 2020

แทมมี่ ดักเวิร์ธ : สื่อใหญ่สหรัฐฯ หนุน-โจมตี สว.อเมริกันเชื้อสายไทยลงคู่โจ ไบเดน ศึกเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ - บีบีซีไทย

supokia.blogspot.com

แทมมี่ ดักเวิร์ธ

นางแทมมี่ ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกรัฐอิลลินอยส์ จากพรรคเดโมแครตของสหรัฐฯ ถูกจับตามองจากสื่อยักษ์ใหญ่หลายสำนัก หลังชื่อของเธอติดโผผู้มีโอกาสได้รับเลือกลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คู่กับนายโจ ไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตที่จะท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งปลายปีนี้

ดักเวิร์ธ วัย 52 ปี ชื่อเต็มคือ พันโทหญิง ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ เป็นอดีตทหารผ่านศึกของสหรัฐฯ ในสงครามอิรัก ซึ่งทำให้เธอต้องสูญเสียขาทั้งสองข้างหลังเฮลิคอปเตอร์ถูกโจมตี ต่อมาเธอได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก่อนจะชนะเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารัฐอิลลินอยส์ในปี 2016 เธอคือชาวอเมริกันเชื้อสายไทยคนแรกที่ได้รับเลือกตั้งเข้าสภาคองเกรสของสหรัฐฯ และเป็นผู้หญิงคนแรกที่คลอดลูกระหว่างดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกอีกด้วย

เธอเกิดที่กรุงเทพมหานคร พ่อเป็นทหารชาวอเมริกัน แม่เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน ครอบครัวของเธอโยกย้ายไปในหลายประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามหน้าที่การงานของพ่อ ทำให้เธอพูดได้ทั้ง ไทย อินโดนีเซีย และอังกฤษ

ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเฟ้นหาผู้ที่จะมาลงเลือกตั้งคู่กับนายไบเดน วัย 77 ปี ซึ่งประกาศเมื่อเดือนมี.ค. ว่า ถ้าเขาได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงเลือกประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาจะเลือกผู้หญิงมาเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่กับเขา ทำให้ดักเวิร์ธ เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ถูกจับตามอง

แทมมี่ ดักเวิร์ธ เดินบนเวที โบกมือ

"ผู้ที่สร้างความขุ่นเคืองให้ทรัมป์"

รายงานข่าวของวอชิงตันโพสต์ ระบุว่า แม้ว่าเธอจะเป็นที่รู้จักน้อยกว่าคู่แข่งอีกหลายคน นายแฮร์รี เอ็ม รีด อดีตผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาของสหรัฐฯ ซึ่งได้ติดต่อกับทีมหาเสียงของนายไบเดนโดยตรงเกี่ยวกับการคัดเลือกผู้ที่จะมาลงเลือกตั้งคู่กับเขา เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงนี้ดักเวิร์ธ "ได้รับความสนใจอย่างมาก" และเขายังเรียกเธอว่า "ผู้หญิงที่มีเกียรติอย่างสูง" ด้วย

เธอเคยให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นว่า ควรจะมี "การพูดคุยกันในระดับชาติ" เกี่ยวกับการรื้อถอนอนุสาวรีย์ของบิดาผู้ก่อตั้งสหรัฐฯ หลายคนออกไป รวมถึง จอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐฯ ซึ่งเคยครอบครองทาส เรื่องนี้เองที่ทำให้ทักเกอร์ คาร์ลสัน พิธีกรช่องฟ็อกซ์นิวส์ไม่พอใจ และวิจารณ์เธออย่างรุนแรง และเห็นว่าเธอ "เหยียดหยาม" อเมริกา นอกจากนี้ยังเรียกเธอว่า "ขี้ขลาด" อีกด้วย

แทมมี่ ดักเวิร์ธ บนรถเข็นพร้อมกับลูก

โดยนายทรัมป์ ได้แชร์คลิปของนายคาร์ลสันที่แสดงความกังขาต่อความรักชาติของดักเวิร์ธด้วย

ขณะที่แฟรงก์ บรูนี คอลัมนิสต์ของนิวยอร์กไทมส์ บอกว่า ดักเวิร์ธเป็นผู้ที่จะสร้างความขุ่นเคืองให้กับทรัมป์ ได้มากกว่าผู้ที่ติดโผคนอื่น ๆ โดยเธอเป็นผู้ที่ตั้งฉายาให้ทรัมป์ว่า "นักเรียนทหารกระดูกงอก" ซึ่งเว็บไซต์ www.bustle.com ระบุว่ามีที่มาจากการที่ทรัมป์ ได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการกระดูกงอกในปี 1968 ทำให้เขาได้รับการผัดผ่อนเข้ารับใช้ชาติ ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงทำสงครามเวียดนามพอดี

เธอบอกบรูนีว่า ทรัมป์เป็นพวกที่ชอบรังแกคนอื่น และสมควรได้ลิ้มลองรสชาติของสิ่งที่เขาทำกับคนอื่น

เรื่องราวชีวิตที่โดดเด่น

ดักเวิร์ธ ไต่เต้าทางการเมืองมาตั้งแต่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2 สมัย ก่อนจะได้เป็นวุฒิสมาชิก ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ปีที่ 4 ของสมัยแรก ในความเห็นของบรูนีเธอจึงมาถึงจุดที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งต่อไปแล้ว และเหมาะสมที่จะได้รับคัดเลือกลงเลือกตั้งคู่กับนายไบเดน นอกจากนี้เรื่องราวที่เธอเผชิญในชีวิต ทำให้เธอโดดเด่นกว่าผู้ที่มีรายชื่อติดโผคนอื่น ๆ นั่นก็คือช่วงที่เธอรับใช้ชาติในอิรักจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด หลังจากเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กที่เธอขับอยู่ถูกโจมตีด้วยจรวดใกล้กับกรุงแบกแดดในปี 2004 และรวมถึงช่วงที่เธอฟื้นตัวกลับคืนมา หลังจากสูญเสียขาทั้งสองข้างด้วย

รายงานข่าวในวอชิงตันโพสต์ระบุว่า ผู้ที่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับการคัดเลือกผู้สมัครอีก 2 คน บอกว่าดักเวิร์ธได้รับความสนใจจากทีมหาเสียงของไบเดน ขณะที่ฝ่ายรีพับลิกันเตรียมที่จะโจมตีผู้ที่ได้รับเลือกให้มาลงสมัครคู่กับนายไบเดนอย่างดุเดือด เพราะเชื่อว่าบุคคลนั้นน่าจะเป็นเป้าโจมตีที่ง่ายกว่าตัวนายไบเดนเอง

หลายฝ่ายคาดว่าจะมีการเปิดเผยชื่อผู้ที่ได้รับเลือกให้ลงสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ในช่วงก่อนการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตวันที่ 17 ส.ค. นี้

คู่แข่งคนสำคัญ

แต่หนทางสู่ทำเนียบขาวของดักเวิร์ธยังมีอีกหลายด่านที่ต้องฝ่าฟัน เพราะมีนักการเมืองหญิงอีกหลายคนที่มีความโดดเด่นที่อาจจะได้รับเลือกให้ลงสมัครคู่กับนายไบเดน

คามาลา แฮร์ริส วุฒิสมาชิกรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นตัวเก็งคนหนึ่ง เธอมีประวัติการทำงานทั้งในวุฒิสภาสหรัฐฯ และสำนักงานอัยการสูงสุดของรัฐแคลิฟอร์เนีย เธอมาจากภูมิหลังที่หลากหลาย แม่ของเธอมาจากอินเดีย ส่วนพ่อมาจากจาเมกา เธอน่าจะเป็นตัวเลือกที่ถูกใจผู้ที่เรียกร้องให้ไบเดนเลือกผู้หญิงผิวดำมาลงเลือกตั้งคู่กับเขา นอกจากนี้สมาชิกพรรคเดโมแครตจำนวนมากยังชื่นชมเธอ จากการที่เธอแสดงการสนับสนุนการปฏิรูปตำรวจในช่วงที่มีการประท้วงใหญ่เมื่อไม่นานนี้

เกร็ตเชน วิตเมอร์ ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน ก่อนหน้านี้ยังไม่ค่อยมีการพูดถึงเธอมากนัก จนกระทั่งช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ซึ่งเธอได้ออกมารับมือกับการระบาดของเชื้อ และวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลกลาง ทำให้เธอตกเป็นเป้าการโจมตีของโดนัลด์ ทรัมป์ และมีความโดดเด่นขึ้นมาในพรรคเดโมแครต

กราฟิกภาพโจ ไบเดน และใบหน้าผู้หญิงที่อาจจะได้รับเลือกลงสมัครเลือกตั้งคู่กับไบเดน

เอลิซาเบธ วอร์เรน วุฒิสมาชิกรัฐแมสซาชูเสตส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สมัครรับเลือกเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เธอมีคะแนนนำในการสำรวจความคิดเห็นเป็นเวลาหลายเดือนในช่วงกลางปีที่แล้ว ก่อนที่จะแผ่วลง หลังจากผู้สนับสนุนฝ่ายก้าวหน้าหันไปสนันสนุนนายเบอร์นี แซนเดอร์ส ส่วนผู้สนับสนุนสายกลางก็หันไปสนับสนุนนายพีต บูติเจิจ ผู้สมัครที่อายุน้อยกว่า

นอกจากนี้ยังมีผู้หญิงในแวดวงการเมืองมีรายชื่อติดโผอีกหลายคนรวมถึง แทมมี่ บอลด์วิน วุฒิสมาชิกรัฐวิสคอนซิน เคีร์ยสเติน ซินเนมา วุฒิสมาชิกรัฐแอริโซนา ซูซาน ไรซ์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ และมิเชล โอบามา อดีตสตรีหมายเลขหนึ่ง

แทมมี่ ดักเวิร์ธ กล่าวว่า "ฉันจะทำงานหนักเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้โจ ไบเดน ได้รับเลือกตั้ง เพราะประเทศต้องการสิ่งนี้ ไม่ว่าฉันจะอยู่ตรงไหนในทีมก็ตาม"

Let's block ads! (Why?)


July 10, 2020 at 09:04AM
https://ift.tt/3efKzOm

แทมมี่ ดักเวิร์ธ : สื่อใหญ่สหรัฐฯ หนุน-โจมตี สว.อเมริกันเชื้อสายไทยลงคู่โจ ไบเดน ศึกเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ - บีบีซีไทย
https://ift.tt/2ZXuIAi
Home To Blog

No comments:

Post a Comment