Pages

Saturday, June 13, 2020

Co-working space - Al - Data เทรนด์มาแรงหลังยุคโควิด-19 - ไทยรัฐ

supokia.blogspot.com

เทรนด์หลังยุคโควิด พบ Co-working space จะกลับมารุ่งเรือง ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้ามามีบทบาทเลือกคนเข้าทำงานและช่วยลดการลาออก ขณะที่ข้อมูล หรือดาต้า (Data) จะถูกใช้ในการทำนายอนาคต ทั้งด้านสาธารณสุข การพัฒนาเมืองและสิ่งแวดล้อม

นายกอร์ม แอนเดรีย กรอนเนเวต์ รองประธาน เทเลนอร์รีเสิร์ช กล่าวว่า เทเลนอร์รีเสิร์ช หน่วยงานด้านการวิจัยของเทเลนอร์ ได้วิเคราะห์และทำนาย 3 เมกะเทรนด์ของโลกอนาคตหลังยุคโควิด-19 ไว้ดังนี้

1.โครงสร้างพื้นฐานใหม่เพื่อการทำงานวิถีใหม่ (New city infrastructure to facilitate a new way of work) วิกฤติโควิด-19 ได้เปลี่ยนวิถีการทำงานไปอย่างสิ้นเชิง จากการทำงานออฟฟิศสู่การทำงานที่บ้าน ทำให้ความซับซ้อนที่มากับการทำงานที่ออฟฟิศในรูปแบบเดิมไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป ต่อจากนี้บริษัทหลายบริษัทจะเริ่มให้พนักงานสามารถทำงานได้จากที่บ้านหรือทำงานระยะไกล ทำให้ความสำคัญของอาคารสำนักงานเริ่มน้อยลง เทเลนอร์รีเสิร์ชคาดว่าโควิด-19 จะมาเร่งให้เกิดเทรนด์การทำงานที่มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งรัฐบาลสามารถสนับสนุนการจัดสรรทรัพยากรและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลของเมือง เพื่อรองรับเทรนด์การทำงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่บ้านและพื้นที่ทำงานร่วมกัน หรือ Co-working space ซึ่งทำให้เกิดการกระจายตัวของพนักงานบริษัทไปทั่วทั้งเมือง คนจะเลือกทำงานใกล้บ้านมากขึ้น เพื่อลดเวลาและทรัพยากรต่างๆ ในการเดินทาง ทำให้การปล่อยไอเสียจากเครื่องยนต์น้อยลง เมืองมีอากาศที่ดีขึ้น ระบบสาธารณสุขที่ดีขึ้น ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานที่ดีขึ้น

2. AI (ปัญญาประดิษฐ์) เปลี่ยนโฉมการจ้างงาน (Recruitment+AI = Match) ด้วยมาตรการล็อกดาวน์ที่รัฐบาลทั่วโลกบังคับใช้ในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบผู้คนหลายล้านคนอยู่ในสภาพตกงาน ขณะเดียวกัน ก็มีงานหลากหลายประเภทที่เกิดขึ้นจากผลกระทบของโควิด-19 และงานที่ต้องอาศัยแรงงานข้ามชาติ หลังยุคโควิด-19 การจ้างงานในตลาดแรงงานไร้ฝีมือจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งแต่เดิมใช้เวลาในการรับสมัครและคัดเลือกเป็นเวลานาน โดยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในการคัดเลือกแรงงานและการจ้างงาน

อัลกอริทึมจะเข้ามาคัดกรองผู้สมัครและตำแหน่งที่ไม่สอดคล้อง และจับคู่ผู้สมัครและเจ้าของกิจการที่มีความต้องการตรงกัน โดยใช้ข้อมูลประวัติภูมิหลังของทั้งผู้จ้างงานและผู้สมัครงาน ความเร็วและความถูกต้องของ AI ไม่เพียงลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการหางานเท่านั้น แต่ยังช่วยลดอัตราการลาออก (turnover) อีกด้วย เพราะด้วยความสอดคล้องกันของข้อมูลทั้งสองฝ่ายที่มากขึ้นจากการใช้ AI

3. ดาต้าเพื่อชีวิต (Crowd movements to the rescue) ดาต้าจะเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆในการต่อสู้กับโรคระบาดในอนาคต อย่างไรก็ตาม การนำข้อมูลของผู้คนเข้ามาใช้ประโยชน์ดังกล่าว ได้ก่อให้เกิดข้อถกเถียงด้าน “ความเป็นส่วนตัว” (Privacy) ของผู้ใช้งานเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ ทำให้อนาคตของการใช้ดาต้าเพื่อทราบถึงรูปแบบการแพร่ระบาดเชื้อโรคหรือไวรัสจะมาในรูปแบบข้อมูลรวม ที่ไม่ระบุตัวตน

จากบทความของ Harvard Business Review ระบุว่า ข้อมูลทางด้านโทรคมนาคมสามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ต่องานด้านสาธารณสุขได้อย่างมีความรับผิดชอบและไม่ล่วงล้ำต่อประเด็นความเป็นส่วนตัว โดยล่าสุดได้มีการใช้ข้อมูลสัญญาณมือถือมาใช้ยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในนอร์เวย์และเดนมาร์ก ขณะที่ก่อนหน้านี้ได้มีการใช้ข้อมูลมือถือในการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อมาลาเรียและไข้เลือดออกในปากีสถานและบังกลาเทศ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าข้อมูลมือถือสามารถนำมาใช้ทำนายทางด้านระบาดวิทยาได้อย่างแม่นยำ ทำให้รัฐบาลและหน่วยงานสาธารณสุขนำข้อมูลมาตัดสินใจออกมาตรการทางด้านสาธารณสุขได้อย่างแม่นยำขึ้น ทั้งนี้ ข้อมูลที่นำมาใช้ในการทำนายรูปแบบการเคลื่อนที่จะเป็นในลักษณะข้อมูลรวมและไม่ระบุตัวตน.

อ่านเพิ่มเติม...

Let's block ads! (Why?)


June 14, 2020 at 05:01AM
https://ift.tt/2UBvNun

Co-working space - Al - Data เทรนด์มาแรงหลังยุคโควิด-19 - ไทยรัฐ
https://ift.tt/2ZXuIAi
Home To Blog

No comments:

Post a Comment