Pages

Tuesday, June 9, 2020

ก.พลังงาน คาดเริ่มโปรเจ็กใช้บล็อกเชนติดตามการซื้อขายปาล์ม เร็วๆนี้ - efinanceThai

supokia.blogspot.com

         กระทรวงพลังงานเตรียมเริ่มโครงการนำร่องใช้ระบบบล็อกเชน (Blockchain) ติดตามการซื้อขายปาล์มเร็วๆ นี้ หวังปฏิรูปการซื้อขายปาล์มทั้งประเทศที่ต้นน้ำและปลายน้ำ มีข้อมูลส่งถึงกันหมด ทวนสอบข้อมูลย้อนหลังได้ ที่สำคัญเกิดราคาที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย

         นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กเพจ "สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" ถึงความคืบหน้าที่กระทรวงพลังงานกำลังมีโครงการนำระบบบล็อกเชน (Blockchain) มา
ใช้กับการซื้อขายปาล์มว่า ระบบบล็อกเชนจะมาคุมการซื้อขายปาล์ม และทำให้เกษตกรได้รับประโยชน์เต็มๆ ที่สำคัญใช้งานง่ายผ่านแอปพลิเคชันในสมาร์ตโฟน

         ที่มาของโครงการนี้ สืบเนื่องจากที่ผ่านมากระทรวงพลังงานมีการเปลี่ยนผ่านนโยบายให้ B10 เป็นน้ำมันเกรดพื้นฐาน ที่ต้องใช้น้ำมันปาล์มดิบ (CPO) มาเป็นส่วนผสมสำคัญ ทำให้เกิดความสมดุลในผลผลิตปาล์มกับความต้องการใช้ภายในประเทศ แต่สิ่งที่ยังคุมไม่ได้ก็คือ ยังไม่สามารถคุมราคาที่พี่น้องเกษตรกรจะได้รับราคาที่เป็นธรรม

         ราคาปาล์มในไทยผันผวนมาตลอด ยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันเมื่อเกิด COVID-19 ขึ้น ยิ่งทำให้คนใช้น้ำมันน้อยลง ประกอบกับจะเข้าสู่ฤดูกาลผลิตปาล์มอีก ก็ยิ่งทำให้ผลผลิตปาล์มล้นตลาด โดนกดราคา ราคาปาล์มก็ตกต่ำ ซึ่งระบบ Blockchain จะมาช่วยตรงนี้

         บล็อกเชน คือ การคุมการซื้อขายปาล์ม กระทรวงพลังงานต้องการเครื่องมือคุมการค้าขายปาล์มน้ำมัน เพื่อช่วยให้เกษตรกรได้รับราคาที่เป็นธรรมบล็อกเชน เป็นระบบควบคุม ติดตาม และเก็บข้อมูลการซื้อขายปาล์มอย่างครบวงจร ทำให้มองเห็นเส้นทางการซื้อขายทุกลิตร ว่าให้ราคาที่เป็นธรรม และเม็ดเงินถึงพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มหรือไม่

         "พูดง่ายๆ ว่า ปลายทาง (โรงกลั่น) จะมองเห็นต้นทาง (เกษตรกร) แล้วเกิดความเชื่อมั่นและมั่นใจ
ในการซื้อขายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม"

         บล็อกเชน จะทำให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรม 3 ด้าน คือ 1) เกิดสมดุลการใช้ปาล์มกับผลผลิตครั้งแรกในประเทศไทย 2) ปลายทางของ CPO)ไปตอบสนองราคาต้นทางของพี่น้องเกษตรกร 3) ผลพลอยได้ ก็คือ ป้องกันการลักลอบนำเข้า เพราะคุมได้กระทั่งว่าซื้อจากสวนไหน ปริมาณเท่าไหร่ จะไม่มี CPO ส่วนเกินโผล่ขึ้นมาได้ เพราะจะถูกบล็อกเชนกำกับไว้ได้

         เกษตกรได้รับประโยชน์เต็มๆ โดยระบบนี้ พี่น้องเกษตรชาวสวนปาล์มจะต้องได้ราคาขายผลผลิตปาล์มเป็นสัดส่วนเดียวกันกับ CPO ไม่โดนกดราคาอีกต่อไป เป้าหมายความสำเร็จของโครงการนี้อยู่ที่พี่น้องเกษตรชาวสวนปาล์มขายปาล์มได้ราคาและสามารถมีรายได้ที่มั่นคงจากปาล์มน้ำมัน

         "เมื่อระบบครอบคลุมผู้ซื้อผู้ขายทั้งหมด ก็จะไม่มีการกดราคาเกิดขึ้น เพราะปลายทางจะรับซื้อเฉพาะผลผลิตปาล์มที่มาจากระบบบล็อกเชนเท่านั้น เกษตรกรจึงได้ผลประโยชน์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเสียที"

         บล็อกเชน ใช้งานง่าย เนื่องจากจะมีสื่อกลาง ก็คือ แอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือที่จะให้ผู้ซื้อผู้ขายดาวน์โหลดไว้กับตัวเอง ใช้ง่ายไม่ยุ่งยาก เพราะผู้ซื้อจะเป็นคนกรอกข้อมูลทั้งหมด ส่วนเกษตรกรใช้แค่ชื่อสกุล และเลขบัตรประชาชน 13 หลักเท่านั้น

         "ยืนยันครับว่า ชีวิตพี่น้องเกษตรกรเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ได้สตางค์เยอะขึ้น ขายปาล์มได้ราคาเป็นธรรมอย่างแท้จริง และจากทั้งหมดนี้ ผมเชื่อว่าการนำบล็อกเชนมาใช้ จึงเป็นการปฏิรูปการซื้อขายปาล์มทั้งประเทศ เป็นจุดเริ่มต้นการกินดีอยู่ดีของพี่น้องเกษตรกรจากมิติด้านพลังงาน"

         หลังการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวบนเฟซบุ๊กเพจ ได้มีผู้สนใจสอบถามว่า กระทรวงพลังงานจะเริ่มเอามาใช้เมื่อไหร่ ซึ่งทางนายสนธิรัตน์ ตอบว่าโครงการนำร่องจะเริ่มเร็วๆ นี้


 

Let's block ads! (Why?)


June 09, 2020 at 12:33PM
https://ift.tt/2XICYTt

ก.พลังงาน คาดเริ่มโปรเจ็กใช้บล็อกเชนติดตามการซื้อขายปาล์ม เร็วๆนี้ - efinanceThai
https://ift.tt/2ZXuIAi
Home To Blog

No comments:

Post a Comment