Pages

Friday, June 5, 2020

ผู้เสียหายร้อง DSI แฉกลโกงออมทองคำ สมาคมค้าทองฯ ออกมาแนะ 6 ข้อสังเกตก่อนลงทุน - ช่อง 7

supokia.blogspot.com
รูปแบบที่ผู้เสียหายคดีนี้เจอ คือ การลงทุนซื้อขายทองคำแท่ง หรือซื้อออมทองคำแท่ง แบบฝากทองไว้กับบริษัทค้าทองที่มีสาขาอยู่ในจังหวัดชลบุรีและระยอง มีผู้เสียหายใน 2 จังหวัด รวมความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท โดยรูปแบบเป็นการลงทุนซื้อขายทองคำล่วงหน้า ที่อ้างว่ามีทองคำขายให้ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีการจัดงานเปิดตัวยิ่งใหญ่จนผู้เสียหายเชื่อมั่น มั่นใจ ลงทุนด้วยตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้าน

สมาคมค้าทองคำจึงออกมาเตือนคนที่สนใจจะลงทุนในลักษณะดังกล่าว ให้สังเกตรูปแบบ 6 อย่างนี้ ถ้าเจอเมื่อไรให้มั่นใจเป็นมิจฉาชีพ มีโอกาสสูญเงินและทรัพย์สินสูงมาก

ข้อสังเกตแรก จะกันตัวออกห่างจากตัว โดยอ้างว่าเป็นทองที่ไม่สามารถเปิดเผยแหล่งที่มาได้ เพราะเจ้าของทองเป็นคนระดับสูง หรือ กังวลเรื่องความปลอดภัย เวลาถามแหล่งที่มาจะทำเป็นรำคาญ ตามมาด้วยคำว่า "ถ้าไม่ซื้อจริงก็ไม่ควรรู้" "ถ้าไม่ซื้อก็ไม่เป็นไร

ข้อต่อมา คือ สถานที่เก็บทอง จะไม่ยอมบอกว่าทองถูกเก็บไว้ที่ไหน เก็บยังไง ทำทีเป็นต้องระมัดระวัง หรือกลัวถูกปล้น

เรื่องต่อมา คือ จะต้องทำเป็นสัญญาจะซื้อจะขาย แล้วให้ผู้ซื้อแสดงบัญชีว่ามีเงินจริง ซึ่งคุณผู้ชมจะได้แต่ใบเสร็จแต่ไม่เคยได้จับทอง หรือถ้าจับก็แค่ระยะสั้นๆ

ข้อสังเกตที่ 4 เขาชักชวนเราด้วยคำว่า "ราคาถูกกว่าทองตลาดมาก" อาทิ ราคาทองในตลาดโลกราคากิโลกรัมละ 1,700,000 บาท แต่อ้างว่าจะขายเพียง 1,300,000 บาทเท่านั้น โดยอ้างว่าเป็นการซื้อล็อตใหญ่จึงสามารถลดได้ หรือข้ออ้างอื่นๆ อีกมากมาย

ข้อต่อมา คือ จะบอกว่า มีจำนวนทองมาก และจะต้องขายเป็นแพ็ค เช่น แพ็คละ 50 ตัน แต่ข้อเท็จจริงคือ เป็นไปไม่ได้ประเทศไทยมีนำเข้าทองคำตลอดทั้งปี รวมแล้วเพียง 150 - 290 ตันเท่านั้น แต่มิจฉาชีพมักอ้างว่ามีทองมากถึง 1,000 - 5,000 ตัน ที่ต้องการจะขาย

รูปแบบอีกอย่างที่จะเจอบ่อย คือ อ้างว่า เจ้าของทองคำ เป็นผู้ใหญ่ ผู้มีอำนาจ ผู้มีชื่อเสียง ทหารระดับนายพล ข้าราชการระดับสูง นักการเมือง หรืออ้างแอบอ้างสถาบัน โดยจะบอกว่าเจ้าของทองไม่สามารถมาติดต่อเองได้ ต้องมีผู้แทนที่เป็นนายหน้า ทำให้ดูว่ามีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

สมาคมค้าทองคำ บอกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีการติดต่อครั้งไหนสำเร็จแม้แต่รายเดียว ซึ่งในความเป็นจริง ทองคำสามารถขายที่ร้านทองได้อยู่แล้ว และได้ราคาตามท้องตลาดอีกด้วย ไม่จำเป็นต้องลดราคาถึงกิโลกรัมละ 300,000-400,000 บาท อย่างที่กล่าวอ้าง เพราะหากลดราคาลง 300,000-400,000 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม ใน 1 แพ็ค หรือ 50 ตัน คนๆ นั้นจะขาดทุนกำไรไปถึง 20,000 ล้าน ถึง 40,000 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคงไม่มีใครยอม เพราะฉะนั้นใครมาชักชวนคุณผู้ชมก็อย่าไปหลงเชื่อเด็ดขาด

Let's block ads! (Why?)


June 06, 2020 at 10:08AM
https://ift.tt/2MyBS6f

ผู้เสียหายร้อง DSI แฉกลโกงออมทองคำ สมาคมค้าทองฯ ออกมาแนะ 6 ข้อสังเกตก่อนลงทุน - ช่อง 7
https://ift.tt/2ZXuIAi
Home To Blog

No comments:

Post a Comment